วันอังคารที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2556

inuyasha

 


เนื้อเรื่อง

อินุยาฉะ เป็นลูกครึ่งอสูรซึ่งเกิดจากพ่อผู้เป็นจอมปีศาจจิ้งจอกผู้ยิ่งใหญ่ แต่มีแม่เป็นมนุษย์ จึงทำให้อินุยาฉะมีปมด้อยและไม่เป็นที่ยอมรับทั้งจากบรรดาปีศาจหรือมนุษย์ ธรรมดา จากการไม่เป็นที่ยอมรับนั้นเองที่เป็นเหตุผลให้เขาต้องการลูกแก้วสี่ วิญญาณ(ลุกแก้วอสูร)เพื่อที่จะกลายเป็นอสูรอย่างเต็มตัว แต่การที่จะได้ลูกแก้วมานั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเพราะลูกแก้วดังกล่าวได้รับการ พิทักษ์จาก คิเคียว ผู้เป็นมิโกะศักดิ์สิทธิ์ ประจำหมู่บ้าน ดังนั้นเขาและคิเคียวจึงมีเหตุให้ต้องประฝีมือกันอยู่เนืองๆ แต่ว่าอินุยาฉะก็ทำร้ายคิเคียวไม่ลงดังเช่นที่คิเคียวก็ไม่ยอมทำร้ายอินุยา ฉะเช่นเดียวกันเนื่องจากคนทั้งคู่ต่างก็มีใจให้กัน
ต่อมาคิเคียวและอินุยาฉะได้คุยกันถึงการตัดสินใจมอบลูกแก้วให้อินุยาฉะ ได้อธิษฐานให้ตนเองกลายเป็นมนุษย์เต็มตัวเพื่อที่พวกเขาจะได้ใช้ชีวิตอยู่ ร่วมกันอย่างคนธรรมดา แต่เหตุการณ์ได้กลับตาลปัตรในรุ่งอรุณของวันที่คิเคียวต้องส่งมอบลูกแก้วสี่วิญญาณให้กับชายคนรัก เพราะโจรป่าโอนิคุโมะ ผู้รวมร่างกับปีศาจจนกลายเป็น นาราคุ (นาราคุ แปลว่า นรก) มีความต้องการในตัวคิเคียวจึงทำให้ทั้งคู่ผิดใจกันด้วยการปลอมตัวเป็นคนทั้ง สองให้ต่างฝ่ายต่างลอบทำร้ายซึ่งกันและกัน ในที่สุดอินุยาฉะก็พลาดท่าถูกคิเคียวยิงด้วยธนูปิดผนึกให้หลับใหลอยู่ข้าง ต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ ส่วนตัวเธอเองพร้อมกับรอยบาดแผลที่สาหัส ได้สั่งเสียก่อนตายกับ คาเอเดะ ผู้เป็นน้องสาวของเธอว่าให้เผาลูกแก้วสี่วิญญาณไปพร้อมกับร่างกายของเธอเพื่อป้องกันไม่ให้ลูกแก้วตกไปอยู่ในมือของปิศาจอีกต่อไป
ต่อมาเมื่อเวลาได้ล่วงเลยมา500ปีจนถึงยุคปัจจุบัน คาโงเมะ สาวน้อยวัยมัธยมต้นไม่เคยรู้มาก่อนว่าวิญญาณของคิเคียวได้กลับมาเกิดใหม่ใน ร่างของเธอ จนกระทั่งในวันที่เธอมีอายุครบ 15 ปี คาโกเมะได้ถูกปิศาจตะขาบลากไปในยุคแห่งสงครามระหว่างมนุษย์กับปีศาจ (ยุคของอินุยาฉะ) ทางบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ที่ชื่อว่าบ่อกลืนกระดูก ในระหว่างการหลบหนีปีศาจตัวดังกล่าวนี้เองทำให้คาโกเมะได้พบกับอินุยาฉะและ ได้ปลุกเขาให้ตื่นจากการหลับใหลนานถึง 50 ปี อีกทั้งได้ค้นพบว่าในร่างกายของตัวเธอเองนั้นมีลูกแก้วสี่วิญญาณที่สมควรจะ หายไปตั้งแต่ถูกเผาไปพร้อมกับร่างกายของคิเคียวในเวลาหลายร้อยปีก่อนหน้านี้
เรื่องราวแห่งโชคชะตาดูจะไม่จบอยู่แค่นั้นเพราะหลังจากที่ข้ามผ่านเวลามา ในโลกแห่งอดีตได้ไม่นานนัก ลูกแก้วสี่วิญญาณก็ได้แตกกระจายออกเป็นเสี่ยงๆ ชิ้นส่วนของลูกแก้วนั้นกระจัดกระจายไปไกลเป็นสิบหรือร้อยชิ้นก็สุดจะคาดเดา คาโกเมะและอินุยาฉะจึงจำต้องจับคู่กันเพื่อตามหาเศษลูกแก้วให้กลับมารวมกัน ให้ได้ก่อนที่คนชั่วและปีศาจร้ายจะได้มันไว้ในครอบครอง และนั่นเองคือจุดเริ่มต้นให้ศึกชิงลูกแก้วสี่วิญญาณได้เปิดฉากขึ้น
และการเดินทางที่ยาวนานเสี่ยงอันตรายที่มาพร้อมกับการต่อสู้อันดุเดือด เพื่อรวบรวมเศษลูกแก้วที่กลายเป็นการเดินทางไปปราบนาราคุโดยปริยายนั้นเอง ที่ได้ก่อร่างสร้างเรื่องราวแห่งมิตรภาพ ความรัก และการค้นพบตัวเองของลูกครึ่งปีศาจผู้นี้ อินุยาฉะได้ต่อสู้กับ เส็ตโซมารุ พี่ชายต่างมารดาที่เป็นอสูรเต็มตัว เพื่อแย่งชิง ดาบเขี้ยวอสูร ซึ่งเป็นมรดกตกทอดจากเขี้ยวของท่านพ่อ ต่อมาอินุยาฉะได้ครอบครองดาบเล่มนี้และใช้ดาบเขี้ยวอสูรเป็นอาวุธคู่กาย เพื่อช่วยในการรวบรวมเศษลูกแก้วสี่วิญญาณตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา อีกทั้งในการผจญภัยครั้งนี้อินุยาฉะได้ร่วมทางไปกับมิตรแท้อย่าง ชิปโป ลูกของปิศาจจิ้งจอกซึ่งพ่อถูกฆ่าตายโดยปีศาจอสูรสายฟ้า, มิโรคุ นักบวชทุศีลจอมลามกที่มีช่องว่างแห่งลมที่มือขวา, และ ซังโกะ ลูกหัวหน้าหมู่บ้านนักปราบปิศาจ ที่มากับคิราร่า ปีศาจแมวสองหางที่เป็นพาหนะคู่ใจ (ปีศาจแมวตัวนี้เคยเป็นแมวคู่ใจของมิโดริโกะมาก่อน) จนกระทั่งได้จัดการกับนาราคุ และร่างแบ่งภาคของนาราคุที่ฝากความแค้นให้กับทุกคนได้ในที่สุด นอกจากนี้แล้วอินุยาฉะยังต้องพบเจอกับเรื่องราวของความรักความผูกพันระหว่าง เขากับคาโกเมะที่แทรกเข้ามาในการเดินทางครั้งนี้อีกด้วย

ตัวละคร

อินุยาฉะ (Inuyasha)
เด็กหนุ่มลูกครึ่งปีศาจผู้มีเลือดผสมจากจอมปิศาจจิ้งจอกเงินและมารดาผู้ เป็นเจ้าหญิงชาวมนุษย์ชื่ออิซาโยอิ เกิดในคืนจันทรุปราคา เป็นคนปากไว มุทะลุ เกลียดการพ่ายแพ้ ขี้เก๊ก โลเล แถมยังไม่เป็นสุภาพบุรุษ แต่ว่ามีจิตใจดีชอบช่วยเหลือผู้อื่น แรกเริ่มอินุยาฉะต้องการลูกแก้วสี่วิญญาณเพื่อจะเป็นปิศาจที่สมบูรณ์ดังเช่น ครึ่งอสูรคนอื่นๆ และชอบพออยู่กับคิเคียว มิโกะผู้รักษาลูกแก้ว ต่อมาถูกนาราคุทำให้ผิดใจกันจนถูกคิเคียวยิงด้วยธนูปิดผนึกให้หลับใหลอยู่ ข้างต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์นานถึง 50 ปี ต่อมาเขาได้พบกับ คาโกเมะ สาวน้อยผู้เป็นร่างใหม่ของคิเคียวในชาติที่แล้วมาปลดผนึกให้ ทั้งคู่จึงตกลงใจมาร่วมกันรวบรวมเศษลูกแก้วและต่อสู้กับศัตรูตัวฉกาจอย่าง นาราคุ อินุยาฉะมีดาบเขี้ยวอสูรซึ่งตีมาจากเขี้ยวของบิดาเป็นอาวุธประจำกาย ใช้เพื่อปกป้องตนเองและผนึกสัณชาตญาณปีศาจซึ่งจะตื่นขึ้นมาในเวลาที่เกิด อันตรายถึงชีวิต โดยมีท่าไม้ตายคือ แผลแห่งลม และ พลังไหลระเบิด (บทพากย์ฉบับโมเดิร์นไนน์การ์ตูนใช้ชื่อว่า พลังคลื่นระเบิด) ที่จะจบชีวิตศัตรูได้ในการจู่โจมแค่ครั้งเดียวเท่านั้น ทว่าอินุยาฉะจะไม่มีพลังปิศาจและกลายเป็นมนุษย์ในคืนที่พระจันทร์หายลับไป จากท้องฟ้า จุดอ่อนคือ เดือนดับ อาหารรสจัด กลิ่นเหม็น น้ำตาผู้หญิง และคำว่า "นั่งลงเดี๋ยวนี้" ของคาโงเมะ อินุยาฉะสูง167เซนติเมตร หนัก65.1กิโลกรัม
ฮิคุราชิ คาโงเมะ (Kagome) 
สาวมัธยมต้นธรรมดาๆอาศัยอยู่ในศาลเจ้าฮิงุราชิกับ ปู่ แม่ และน้องชาย แต่ในวันเกิดครบรอบ 15 ปี เธอถูกปีศาจตะขาบพามาที่ยุคสงครามเมื่อ 500 ปีก่อนเพื่อที่จะพบกับอินุยาฉะที่ถูกคิเคียวผนึกไว้ คาโกเมะผู้ซึ่งเป็นวิญญาณของคิเคียวกลับชาติมาเกิดได้ไปปลดผนึกอินุยาฉะออก เธอและอินุยาฉะจึงได้มาเป็นคู่หูในการรวบรวมเศษลูกแก้วสี่วิญญาณหลังจากเกิด อุบัติเหตุที่ทำให้ลูกแก้วสี่วิญญาณแตกและกระจายไปทั่ว คาโกเมะเป็นคนใจกว้าง มองโลกในแง่ดี และมีจิตใจที่บริสุทธิ์ (แม้บางทีอาจจะติดระแวงหรือขี้หึงเล็กๆ แต่มักเก็บเอาไว้คนเดียว) เป็นผู้ที่มีพลังในการชำระล้างความชั่วร้าย ธนูของเธอสามารถทำลายไอปีศาจรวมทั้งต่อสู้กับปีศาจได้เก่งกล้าไม่แพ้อาวุธ ของคนอื่นๆ นอกจากนี้เธอยังมีไม้เด็ดก็คือ คำสั่ง "นั่งลงเดี๋ยวนี้" ซึ่งเป็นอาคมที่จะฉุดประคำที่คอของอินุยาฉะให้เขาสงบลง หยุดการเคลื่อนไหว หรือใช้เพื่อทำโทษอินุยาฉะได้ชะงักนัก ส่วนในโลกปัจจุบันนั้นคาโกเมะมีเพื่อนสนิทชื่อว่า ยูกะ เอริ และอายูมิ และมีเพื่อนร่วมทางเพื่อไปรวบรวมลูกแก้วสี่วิญญาณคือ มิโรคุ ซังโกะ ชิบโป และคิราร่า คาโกเมะมีหนุ่มๆหลายคนที่หมายปองคือ โคงะ หัวหน้าหมาป่าอสูร และ โฮโจคุง เพื่อนร่วมโรงเรียน คาโงเมะสูง157.5เซนติเมตร หนัก49กิโลกรัม
คิเคียว (Kikyo) 
มิโกะผู้ คุ้มครองลูกแก้วสี่วิญญาณให้สะอาดบริสุทธิ์ เป็นคนสุขุมจริงจัง ไม่แสดงออก และมีใบหน้าอมทุกข์ ในอดีตคิเคียวเคยรักอินุยาฉะแต่เพราะกลอุบายของนาราคุ จึงทำให้ผิดใจกับอินุยาฉะ เธอจึงได้ผนึกอินุยาฉะไว้แล้วตายด้วยบาดแผลไปพร้อมลูกแก้วสี่วิญญาณ 50 ปีต่อมาคิเคียวได้กลับชาติมาเกิดเป็น คาโกเมะ และจากนั้นไม่นานก็ได้ถูกทำให้ฟื้นคืนชีพให้มีชีวิตขึ้นมาใหม่อีกครั้งด้วยน้ำมือของปีศาจอุราซึเอะเพื่อ ตามหาเศษลูกแก้ว แต่เธอก็ไม่ได้ทำตาม กลับฆ่าคนที่ปลุกชีพทิ้งและปลีกวิเวกเดินทางออกไปแก้แค้นนาราคุตามลำพัง หลังจากที่รู้ความจริงว่าโศฏนาฎกรรมระหว่างเธอกับอินุยาฉะเป็นเรื่องเข้าใจ ผิดกันคิเคียวซึ่งยังมีใจให้อินุยาฉะอยู่ก็มักจะออกโรงมาช่วยเหลืออินุยาฉะ อยู่เสมอ ต่อมาเธอถูกความชั่วร้ายในใยแมงมุมของนาราคุเข้าครอบงำจิตใจจึงไม่สามารถ ชำระล้างลูกแก้วและช่วยโกฮักคุได้ คิเคียวจึงฝากโกฮักคุไว้ใต้การดูแลของคาโกเมะและใช้พลังเฮือกสุดท้ายที่ พร้อมจะสะกดนาราคุให้ตายตกไปตามกันแต่ไม่สำเร็จเพราะความชั่วร้ายของนาราคุ มีมากจนเกินไป อย่างไรก็ตามคาโกเมะได้ใช้ธนูแห่งเขาอาสึซะชำระล้างความชั่วร้ายในตัวของคิ เคียวและช่วยวิญญาณของเธอเอาไว้ได้ คิเคียวจึงไม่ต้องใช้เวลาในวาระสุดท้ายแต่เพียงลำพังและได้เสียชีวิตลงอีก ครั้งภายในอ้อมกอดของอินุยาฉะ ชายคนที่เธอรัก คิเีคียวสูง158เซนติเมตรหนัก50.3กิโลกรัม
เส็ตโชมารู (Sesshomaru) 
เขาเป็นพี่ชายต่างมารดาของอินุยาฉะแต่ไม่ลงรอยกันเท่าไหร่นัก เป็นคนเลือดเย็นและเย็นชา มีผู้ติดตามเป็นปีศาจร่างเล็กนามว่า จาเก็น เส็ตโชมารูมีดาบเขี้ยวฟ้าฟื้นซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของดาบเขี้ยวอสูรที่ทำมาจากเขี้ยวของบิดาเป็นอาวุธประจำกายโดยมีท่าไม้ตายคือ จันทร์เสี้ยวปรภพ ที่เมื่อฟันออกไปจะเกิดหลุมดำขนาดมหึมาดูดคู่ต่อสู้ไปยังปรโลกได้ นอกจากนี้ดาบเขี้ยวฟ้าฟื้นยังมีอิทธิฤทธิ์ช่วยชุบชีวิตผู้ที่ตายไปแล้วให้ กลับมาชีวิตได้ถึง100คนในด้วยการกวัดแกว่งเพียงครั้งเดียว และพลังในการชุบชีวิตของดาบเขี้ยวฟ้าฟื้นนี้เองที่ทำให้เซโชมารุได้พบกับ ริน เด็กน้อยกำพร้าผู้ยื่นมือเข้ามาช่วยรักษาแผลที่เกิดจากการปะทะกับดาบเขี้ยว อสูรของอินุยาฉะซึ่งโชคร้ายถูกสมุนเผ่าหมาป่าปีศาจฆ่าตายและใช้ดาบเขี้ยวฟ้า ฟื้นของเขาช่วยชีวิตเธอเอาไว้ นับแต่นั้นเป็นต้นมาเส็ตโชมารูได้มองโลกในแง่มุมใหม่ มีความคิดที่จะทำอะไรเพื่อคนอื่น รู้สึกโกรธแค้นเพื่อผู้อื่น รู้จักความรัก และเป็นคนที่ดีขึ้น แต่นอกจากดาบเขี้ยวฟ้าฟื้นแล้วเส็ตโชมารูก็ยังมีดาบเขี้ยวดินระเบิดที่มา พร้อมกับแขนซ้ายของเขา เส็ตโซมารุสูง185.42เซนติเมตรหนัก76กิโลกรัม
มิโรคุ (Miroku) 
นักบวชจอมลามกจีบผู้หญิงไปวันๆ เจอผู้หญิงสวยๆที่ไหนก็มักจะพูดว่า"ช่วยคลอดลูกให้ข้าสักคนได้มั้ยครับ"จน ติดเป็นนิสัย แต่ว่ามีเพียงซังโกะเป็นคนที่เขารักอย่างจริงจัง มิโรคุตัดสินใจร่วมเดินทางไปปราบนาราคุเพื่อจะได้ใช้ชีวิตอย่างสงบสุข หลักจากที่ปู่ของเขาถูกนาราคุสาปให้มีช่องว่างแห่งลมที่มือซึ่งเป็นคำสาปที่ จะสืบทอดไปยังลูกหลานจนกว่านาราคุจะถูกกำจัด โดยช่องว่างแห่งลมสามารถดูดทุกสิ่งให้หายไปในความว่างเปล่า แต่จะขยายใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ จนสุดท้ายจะดูดกลืนตัวเจ้าของเองโดยไม่เหลือแม้แต่กระดูก ภายหลังในตอนจบของเรื่อง คำสาปช่องว่างแห่งลมได้ถูกทำลายและมิโรคุก็ได้ร่วมชีวิตครอบครัวกับซังโกะ โดยมีลูกสาวฝาแฝดและลูกชายอีกหนึ่งคน มิโรคุสูง165เซนติเมตรหนัก68.9กิโลกรัม
ซังโกะ (Sango) 
นักล่าปีศาจฝีมือดีที่ถูกนาราคุหลอกไปทำร้ายจนปางตายด้วยน้ำมือของ โคฮาคุ ผู้เป็นน้องชายตัวเองซ้ำยังถูกนาราคุเป่าหูว่าทุกคนในหมู่บ้านซังโกะถูกล้าง เผ่าพันธุ์ด้วยเป็นฝีมือของอินุยาฉะ ทำให้ซังโกะโกรธแค้นตามไปล้างแค้นกับอินุยาฉะ แต่เมื่อหลังจากรู้ความจริง ซังโกะจึงเข้าร่วมกับอินุยาฉะเพื่อกำจัดนาราคุ ต่อมาได้ตกลงเป็นคู่รักกับมิโรคุ พร้อมกับสัญญากันว่าจะแต่งงานกันเมื่อแก้แค้นนาราคุได้แล้ว มีอาวุธประจำกายคือ กระดูกบิน หรือ บูมเมอแรงยักษ์ ในตอนท้ายสุดของเรื่องเธอตกลงแต่งงานสร้างครอบครัวกับมิโรคุ ทั้งสองมีลูกๆด้วยกัน 3 คน เป็นลูกสาวฝาแฝดและลูกชายอีกหนึ่งคน ซังโกะสูง160เซนติเมตร
ชิปโป (Shippo) 
เป็นลูกของปิศาจจิ้งจอกซึ่งถูกพี่น้องไรจู (มันเต็น และ ฮิเต็น) ฆ่าตาย ทีแรกต้องการมาขโมยลูกแก้วสี่วิญญาณของคาโกเมะเพื่อไปแก้แค้นให้พ่อแต่ได้อิ นุยาฉะมาช่วยแก้แค้นให้ ชิปโปจึงถืออินุยาฉะเป็นผู้มีพระคุณและร่วมเดินทางมากับพวกอินุยาฉะมาตลอด แต่ดูเหมือนจะสนิทกับคาโกเมะมากกว่าเพราะถูกอินุยาฉะแกล้งอยู่เป็นประจำ ชิปโปมีวิชาแปลงร่างได้ ชอบวาดภาพระบายสี เจ้าชู้เล็กๆ ถึงจะยังเป็นเด็กแต่บางครั้งก็กล้าหาญไม่เบาเลย
คิราร่า (Kirara) 
เป็นสัตว์คู่ใจของซังโกะ คิราร่าได้อาศัยอยู่ในหมู่บ้านของซังโกะตั้งแต่ซังโกะยังไม่เกิด และยังมีคนเชื่อว่าคิราร่ายังเคยเป็นสัตว์คู่ใจของมิโกะนามว่า มิโดริโกะ ผู้ที่เคยปกป้องหมู่บ้านจากพวกปีศาจและเป็นผู้ที่สร้างลูกแก้วสี่วิญญาณขึ้น มา คิราร่านั้นมี 2 ร่าง ร่างหนึ่งคือแมวตัวเล็กๆน่ารัก แต่อีกร่างหนึ่งคือแมวปีศาจที่มีร่างกายใหญ่โต สามารถลอยได้ และนอกจากเป็นเพื่อนร่วมรบคู่ใจของซังโกะแล้ว คิราร่ายังเป็นพาหนะให้ซังโกะ มิโรคุ และ คาโงเมะ (ในตอนที่อินุยาฉะไปพบคิเคียว) ขี่ได้อีกด้วยอ

มิโดริโกะ 
ผู้ที่เคยปกป้องหมู่บ้านจากพวกปีศาจ ต่อมาพวกปีศาจได้รวมตัวกันรุมทำร้ายมิโดริโกะ มิโดริโกะจึงนำวิญญาณของพวกปิศาจมาใส่ในร่างตน และสิ่งที่ออกมาจากร่างของมิโดริโกะก็คือ "ลูกแก้วสี่วิญญาณ" ซึ่งมิโดริโกะก็ยังคงสู้กับพวกปีศาจในลูกแก้วตลอดมา
ริน (Rin) 
เดิมเธอเป็นลูกชาวบ้านธรรมดาแต่เธอต้องมาเห็นพ่อแม่ของเธอถูกโจรป่าฆ่า ตายไปต่อหน้าต่อตาเธอจึงช็อคจนพูดไม่ได้ วันหนึ่งโชคชะตานำพาให้รินไปเจอกับเซโชมารุได้รับบาดเจ็บสาหัสอาการปางตาย จึงช่วยรักษาบาดแผลให้ แต่ต่อมาโชคร้ายถูกสมุนเผ่าหมาป่าปีศาจของโคงะ ฆ่าตายแต่ได้เซโชมูรุใช้ดาบเขี้ยวฟ้าฟื้นช่วยชีวิตเอาไว้ได้ หลังจากรอดจากความตายมารินจึงคอยติดตามเซโชมารุไปตลอดเวลาและกลับมาพูดดัง เดิมได้แถมยังพูดมากอีกซะด้วย ภายหลังเซโชมารุได้ฝากรินไว้ในความดูแลของท่านคาเอดะ ที่หมู่บ้านโดยแวะเวียนมาเยี่ยมเด็กน้อยและเอาของกำนัลมาให้บ้างเป็นครั้งคราว
โกฮาคุ (Kohaku) 
น้องชายของซังโกะ เขาถูกนาราคุควบคุมจิตใจให้ฆ่าพ่อและพวกพ้องของตัวเอง และยังลบความทรงจำของโกฮักคุ เพื่อใช้ให้โกฮักคุจัดการกับซังโกะและพวกอินุยาฉะ แต่ภายหลังก็ได้ความทรงจำกลับคืนมาแต่ไม่เอ่ยปากบอกใครเพื่อหาจังหวะเพื่อจะ จัดการกับหัวใจของนาราคุ ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ซังโกะโกรธแค้นนาราคุมาก โกฮักคุได้ร่วมมือกับคากุระในการทรยศนาราคุ แต่นาราคุรู้ทันจึงสังหารคากุระซะ ก่อนที่คากุระจะถูกฆ่าได้ใช้ขนนกพาโกฮักคุหนีไป ต่อมาโกฮักคุก็ไปหลบอยู่กับคิเคียวแต่ตอนที่นาราคุคิดจะใช้ใยแมงมุมเพื่อที่ จะให้จิตใจของคิเคียวมัวหมองจึงให้โกฮักคุหนีไปโดยมีชิคิงามิคอยติดตาม แต่นาราคุรู้ทันจึงส่งเบียคุยะมาดักกลางทางแต่ก็ได้เซโชมารุมาช่วยไว้จึงได้ มาอยู่กับเส็ตโชมารูในที่สุด ในตอนจบของเรื่อง โกฮักคุออกผจญโลกกว้างเพียงลำพังเพื่อฝึกฝนตนเองให้เป็นนักล่าปีศาจที่ เก่งกาจที่สุด
โคงะ (Koga) 
หัวหน้าของเผ่าหมาป่าปีศาจ ผู้เป็นคู่กัดกับอินุยาฉะเพราะะหลงรักคาโกเมะ (แต่โคงะเองก็มีคู่หมั้นอยู่แล้วคือ อายาเมะ) โคงะมีเศษลูกแก้วอสูรฝังอยู่ที่แขนขวาและขาทั้ง2ข้าง (ภายหลังเหลือแค่ที่ขา2ข้าง เพราะถูกปีศาจนก โกคุรักคุ ที่เป็นคู่อริชิงไป) โคงะออกตามล่านาราคุ โดยการถอนตัวออกจากการเป็นหัวหน้าฝูงหมาป่าของตนเพื่อมาแก้แค้นนาราคุ เพราะนาราคุได้ฆ่าพรรคพวกของเขาไปมากมายเพียงเพื่อจะเป็นเครื่องมือในการกำ จัดอินุยาฉะไปให้พ้นทาง แต่ในภายหลังได้ถูกนาราคุชิงเอาเศษลูกแก้วไป จึงออกจากกลุ่มของพวกอินุยาฉะเพื่อกลับไปเป็นหัวหน้าฝูงหมาป่าตามเดิม โคงะสูง176เซนติเมตร
จาเก็น (Jaken) 
จาเก็นเป็นปิศาจรับใช้ที่คอยติดตามเซโชมารุ จงรักภักดีต่อเซโชมารุมากแต่มักจะโดนเซโชมารุแสดงท่าทีเย็นชาโหดร้ายใส่อยู่ เสมอ เขาจึงต้องคอยสังเกตดูสีหน้าของเซโชมารุตลอดเวลา จาเก็นมีอาวุธเป็นไม้เท้าหัวคนของจาเก็นสามารถพ่นไฟที่ร้ายแรงมากจนสามารถ ทำลายอะไรที่อยู่เบื้องหน้าไม้เท้านั้นให้ถูกเผากลายเป็นเถ้าถ่านได้
คาเอเดะ (Kaede) 
น้องสาวของคิเคียวผู้เป็นมิโกะดูแลหมู่บ้านและคอยให้คำแนะนำต่างๆแก่พวกอินุยาฉะ
โทโตไซ 
เป็นช่างตีดาบฝีมือเยี่ยม ลูกน้องที่ภักดีของท่านขุนพลสุนัขอสูรพ่อของอินุยาฉะ เป็นผู้ตีดาบเขี้ยวอสูรของอินุยาฉะ และดาบเขี้ยวฟ้าฟื้นของเส็ตโชมารู ปู่เมียวกะมักจะมาหลบภัยอยู่ด้วยบ่อยๆ
เมียวกะ (Myoga) 
เป็นปีศาจหมัด ผู้ให้คำแนะนำเรื่องต่างๆแก่อินุยาฉะ เดิมทีเป็นผู้ติดตามท่านพ่อของอินุยาฉะ ปู่หมัดเมียวกะติดนิสัยอยู่อย่างหนึ่งคือ พอมีเรื่องอันตรายเมื่อไหร่จะหายไปเป็นคนแรกทันที
อินุไทโช 
เป็นจอมปีศาจหมาจิ้งจอก พ่อของอินุยาฉะ เส็ตโชมารู และอิจิโนเสะหรือฮาร์ท เป็นเจ้าของดาบเขี้ยวฟ้าฟื้น (ที่อยู่กับเส็ตโซมารู) และดาบเขี้ยวอสูร (ที่อยู่กับอินุยาฉะ) และดาบโซอุนกะ เสียชีวิตในวันเดียวกับที่อินุยาฉะเกิด เพราะปกป้องเจ้าหญิงอิซาโยอิและทารกน้อยไว้ เป็นผู้มอบเสื้อขนหนูไฟและชื่อ อินุยาฉะ ให้กับอินุยาฉะ
อิซาโยอิ
แม่ของอินุยาฉะ เป็นเจ้าหญิงผู้สูงศักดิ์ที่หลงรักกับอินุไทโชผู้เป็นอสูร มีจิตใจอ่อนโยน งดงามสมเป็นขัตติยนารี ดูแลอินุยาฉะอย่างดีมาเพียงลำพัง แต่ต้องประสบเคราะห์กรรมที่โชคร้ายเพราะไม่มีใครยอมรับ และได้เสียชีวิตลงเมื่ออินุยาฉะอายุ 5 ขวบ
ท่านแม่ของเส็ตโชมารู 
เป็นปีศาจจิ้งจอกเต็มตัว ในร่างมนุษย์มีโฉมที่งดงามแต่ทว่าเป็นคนเย็นชา เป็นผู้ดูแลศิลาปรโลกที่อินุไทโซเหลือให้ไว้สำหรับเป็นสิ่งที่สามารถทำให้ พลังจันทร์เสี้ยวปรภพ (เมโด) ที่อยู่ในดาบเขี้ยวฟ้าฟื้นกลายเป็นจันทร์ที่เต็มดวง

นาราคุ (Naraku) 
นาราคุเป็นครึ่งปีศาจที่เกิดจากแรงอาฆาตของโจรป่า โอนิงูโมะ ที่ได้รับบาดเจ็บอย่างสาหัสแต่ได้คิเคียวมาช่วยเอาไว้หลังจากโดนเผาไฟทั้ง ตัวหลังจากที่ถูกจับห่อเสื่อโยนลงไปในเหวลึกที่เรียกกันว่า "นาราคุ" (นรก) เพราะหักหลังพวกพ้อง โอนิคุโมะจึงหลงรักคิเคียวอย่างสุดหัวใจและต้องการแย่งคิเคียวจากอินุยาฉะ จึงเสนอพลังวิญญาณให้ปีศาจหลายร้อยหลายพันตัวเข้ากัดกินสิ่งสู่ในร่าง กายกลายเป็นครึ่งปีศาจนาราคุ แต่จิตใจปีศาจของนาราคุก็บดบังความรู้สึกนึกคิดของโอนิงุโมะจนหมดจนกลายเป็น ว่านาราคุวางแผนให้อินุยาฉะและคิเคียวฆ่ากันเองเพื่อช่วงชิงลูกแก้วสี่ วิญญาณ นาราคุเป็นจอมวางแผน นิยมทำความชั่วช้าโดยไม่ให้มือตัวเองแปดเปื้อน เจ้าเล่ห์เพทุบาย และสามารถแบ่งร่างออกมาใช้งานได้หลายรูปแบบโดยมีสัญลักษณ์ประจำตัวเป็นรูป แมงมุมที่กลางหลัง
คันนะ (Kanna) 
เป็นร่างแบ่งภาคที่นาราคุสร้างขึ้นจากความว่างเปล่าเป็นร่างแรก เป็นพี่สาวของคากุระ คันนะเป็นผู้ใช้กระจกที่สามารถดูดกลืนวิญญาณและสามารถสะท้อนพลังต่างๆกลับมา ได้ เป็นสมุนที่นาราคุไว้เนื้อเชื่อใจมากที่สุด แต่ภายหลังนาราคุทรยศเธอ โดยให้เธอสังเวยชีวิตเพื่อทำลายดาบเขี้ยวอสูร เมื่อเห็นว่าไม่สำเร็จจึงบังคับให้เธอตายและพาพวกอินุยาฉะไปด้วย
คันนะจึงใช้ความรู้สึกสุดท้ายเพื่อบอกคาโงเมะถึงวิธีกำจัดนาราคุ ทำให้ทุกคนรู้ว่าคันนะเองก็มีความรู้สึกและหัวใจเช่นกัน
คากุระ (Kagura) 
เป็นร่างแบ่งภาคที่นาราคุสร้างขึ้นเป็นร่างที่ 2 ต่อจากคันนะ คากุระเป็นผู้ใช้ลมและสามารถเชิดศากซพของคนตายให้เคลื่อนไหวและต่อสู้ได้ เหมือนมีชีวิต ต่อมา คากุระกลับใจเป็นคนดี และพยายามหาอิสรภาพให้กับตนเอง เธอหักหลังนาราคุด้วยการแอบไปส่งข่าวให้เซ็ซโซมารุอยู่เสมอ เพราะเธอเชื่อว่าเซสโซมารุมีพลังแข็งแกร่งมากพอที่จะเทียบเคียงนาราคุได้ ทว่าต่อมา คางุระถูกนาราคุทำร้ายปางตายเพราะช่วยโงฮักคุไว้ เธอยอมรับความตายอย่างสงบต่อหน้าเส๊ตโชมารูโดยไม่ยอมรับการช่วยเหลือจากชาย คนรักของเธอ ในที่สุดวิญญาณของเธอก็เป็นอิสระเช่นสายลมโดยแท้จริง ถึงแม้ร่างกายจะตายจากไป แต่ "สายลม" ก็ยังคงพัดผ่านอยู่เคียงข้างเส็ตโชมารูเสมอมา
ฮักคุโดชิ 
ร่างแยกอีกหนึ่งร่างของนาราคุ แยกออกมาตอนที่นาราคุหลบไปยังเขาฮักคุเร ซึ่งในตอนแรกคือหัวใจของนาราคุ หลังจากถูกนักบวชผ่าออกเป็นสองซีก ซีกที่มีหัวใจถูกเก็บรักษาเอาไว้อย่างดี ส่วนซีกที่ไม่มีหัวใจคือฮักคุโดชินั่นเอง มีความสามารถพิเศษคืออ่านใจคนและครอบงำจิตใจคนได้ ต่อมาถูกมิโรคุใช้ช่องว่างแห่งลมดูดกลืนเข้าไปตามแผนการของนาราคุ เหตุเพราะอยากเป็นใหญ่กว่านาราคุ
อากาโกะหรืออากาชิ 
หัวใจที่แท้จริงของนาราคุ มีความสามารถอย่างเดียวกับฮักคุโดชิแต่แกร่งกว่าหลายเท่านัก เป็นหัวใจที่ทรยศร่างเนื้อของตัวเอง ได้หินฟุโยเฮคิมาครอบครองเพื่อให้พลังปีศาจหายไป ทำให้ไม่มีศัตรูรายไหนตามเจอสุดท้ายอาศัยอยู่ในร่างของโมเรียวมารุเพื่อ ต่อสู้กับนาราคุและพวกอินุยาฉะ
โมเรียวมารู 
เป็นปีศาจที่ไม่มีจิตวิญญาณ สร้างขึ้นเพื่อใช้เก็บซ่อนหัวใจ (อากาโกะ) เอาไว้ จึงเป็นเครื่องมือสำคัญของอากาโกะที่จะใช้ต่อกรกับนาราคุและพวกอินุยาฉะ ต่อมาโมเรียวมารุได้ดูดกินปีศาจอื่นๆเพื่อให้ได้พลังปีศาจของปีศาจเหล่านั้น มาเสริมให้ตนแข็งแกร่งขึ้น แต่สุดท้ายก็โดนนาราคุกลืนหัวใจของมันกลับเข้าร่างไป
เบียคุยะ 
ร่างแบ่งใหม่ของนาราคุ เป็นผู้สร้างภาพลวงตาและมายาแห่งฝัน สามารถถอดดวงตาของตนออกบินสังเกตการณ์ในที่ต่างๆได้ อาวุธที่ใช้เป็นประจำคือดอกราตรีขาว ซึ่งจะสร้างภาพลวงตาให้ศัตรูสับสน เนื่องจากคากุระ,ฮักคุโดชิ,โกฮาคุ และอากาโกะทรยศนาราคุ เบียคุยะจึงเป็นสมุนของนาราคุที่มีฤทธิ์มากที่สุด เพราะต้องทำหน้าที่แทนสมุนคนอื่นๆ
โกเรียวมารู 
แต่เดิมเป็นนักพรตที่ถูกปีศาจกลืนกินแขนข้างหนึ่งไป แต่โกะเรียวมารุได้ใช้มนต์สะกดปีศาจตนนั้นให้อยู่ในโอวาท และใช้พลังจากแขนปีศาจข้างนั้นในการปราบปีศาจ รับเลี้ยงเด็กกำพร้าเป็นสานุศิษย์เพื่อไปทำการล่าปีศาจโดยแจกน้ำเต้าบรรจุ พลังแสงของแขนปีศาจให้ใช้สู้กับปีศาจ ต่อมาถูกสังหารโดยฮักคุโดชิและกลายร่างเป็นโมเรียวมารุ
หน่วยเจ็ดสังหาร 
เป็นกลุ่มทหารรับจ้าง ประกอบด้วย บังโกซึ เคียวโกซึ คินโกซึ มูโกซึ จาโกซึ เร็นโกซึ และซุยโกซึ แต่เดิมพวกเขาเป็นมนุษย์ซึ่งรับจ้างสู้รบและทำลายปราสาทเจ้าเมืองต่างๆใน ฐานะทหารรับจ้างที่ไม่เป็นข้ารับใช้ใคร แต่ถูกเจ้าเมืองที่เคยทำงานให้ร่วมมือกันหักหลัง ถูกจับได้และประหารชีวิตด้วยการตัดหัว เหล่าเจ้าเมืองกลัววิญญาณแค้นจึงฝังและผนึกไว้ กระทั่ง 15 ปีต่อมา นาราคุก็นำเศษลูกแก้วสี่วิญญาณมาคืนชีพให้ เพราะต้องการหลอกใช้หน่วยเจ็ดสังหารเป็นตัวช่วยถ่วงเวลากันพวกอินุยาฉะไว้ใน ขณะที่ตนเองกำลังเปลี่ยนร่างเพื่อเพิ่มพลัง
บังโกซึ(ผู้มีสันดานหยาบช้า) 
หัวหน้าหน่วยเจ็ดสังหาร มีฝีมือการต่อสู้เก่งกาจที่สุดจึงถูกยกเป็นพี่ชายคนโตของกลุ่มแม้ว่าจะมี อายุน้อยที่สุดก็ตาม เป็นคนรักพวกพ้องมาก รอดชีวิตอยู่เป็นคนสุดท้ายจึงต้องการจะแก้แค้นให้พวกพ้องที่ตายไป แต่สุดท้ายต้องตายเพราะโดนอินุยาฉะฆ่า
เคียวโกซึ(ผู้ชั่วร้าย) 
มีร่างกายใหญ่โตมาก บ้าพลังและตะกละ สุดท้ายก็ถูกโคงะฆ่าตายโดยการแย่งเอาเศษลูกแก้วออกมาจากหน้าผาก
คินโกซึ(ผู้มีร่างกายเป็นเหล็ก) 
มีร่างกายประกอบด้วยเหล็กและอาวุธต่างๆทั้งตัว ตายในขณะที่ต่อสู้กับโคงะ เพราะสละชีวิตตนช่วยเร็นโกซึซึ่งเป็นผู้มีพระคุณของตนไว้
มูโกซึ(ผู้ใช้พิษ) 
มีหน้าตาที่น่าเกลียด เป็นผู้ใช้พิษ พิษของเขาร้ายแรงมากและมีหลายรูปแบบ เป็นสมาชิกคนเดียวในหน่วยเจ็ดสังหารที่บ้าผู้หญิง สุดท้ายก็โดนเส็ตโชมารุที่ตามกลิ่นไอปีศาจมาฆ่าตาย
จาโกซึ(ผู้ใช้งู) 
กายเป็นชายแต่มีนิสัยชอบผู้ชายด้วยกัน มีดาบกระดูกงูเป็นอาวุธ ชอบอินุยาฉะและมิโรคุ มีความซื่อสัตย์ต่อบังโกซึเป็นเลิศ แต่สุดท้ายตายเพราะโดนอินุยาฉะจัดการจนไม่เหลือพลังและโดนพวกพ้อง (เร็นโกซึ) หักหลังแต่ได้รับการล้างแค้นโดยบังโกซึในภายหลัง
เร็นโกซึ(ผู้ใช้ไฟ) 
เป็นคนฉลาดและเจ้าเล่ห์ คิดจะทรยศพวกพ้องของตนเอง และได้หลอกจาโกซึให้ไปถูกอินุยาฉะฆ่าเพื่อชิงเศษลูกแก้ว แต่สุดท้ายต้องถูกบังโกซึฆ่าตายเพราะโดนจับได้
ซุยโกซึ(ผู้หลับใหล) 
เป็นผู้ที่มีสองบุคลิกในคนเดียวกัน บุคลิกหนึ่งคือเป็นหมอที่ทีความมีเมตตา ช่วยเหลือคน แต่อีกบุคลิกหนึ่งคือเป็นผู้ที่มีจิตใจโหดร้าย ชื่นชอบการฆ่าฟันเป็นชีวิตจิตใจ ปกติแล้วจะถูกซุยโกซึที่มีจิตใจดีกดไว้อยู่แต่พอโมโหขึ้นมาซุยโกซึอีกคน หนึ่งก็จะปรากฏตัวออกมา สุดท้ายซุยโกซึได้ขอร้องให้คิเคียวเอาเศษลูกแก้วไปจากตนซะเพราะไม่อยากให้ ใครต้องตายเพราะตนอีกแล้วแต่โดนจาโกซึแย่งไปก่อน
ไซเมียวโช 
เป็นแมลงที่มาจากขุมนรก มีพิษร้ายแรง ถูกนาราคุนำมาใช้ประโยชน์ในการทำลายช่องว่างแห่งลมของมิโรคุ โดยเมื่อไหร่ที่มิโรคุใช้ช่องว่างแห่งลม ไซเมียวโชก็จะถูกปล่อยออกมาพร้อมกับบินเข้าไปในช่องว่างแห่งลมทันทีและนอก จากจะทำลายช่องว่างแห่งลมของมิโรคุได้แล้วไซเมียวโชยังสามารถสะกดรอยตามคน ให้นาราคุได้อีกด้วย
แมลงส่งวิญญาณ (ชินิทามะจู) 
ถูกคิเคียวนำมาใช้ดูดวิญญาณของหญิงสาวที่ตายแล้วมาให้ตนเพื่อใช้ในการ ดำรงชีวิตให้อยู่รอด แมลงส่งวิญญาณมีลักษณะลำตัวยาว คล้ายงูและมีสีขาวเรืองแสงเปล่งประกาย

ของวิเศษในเรื่อง

ลูกแก้วสี่วิญญาณ

ลูกแก้วสี่วิญญาณ หรือ ลูกแก้วอสูร คือลูกแก้วที่เกิดขึ้นจากหัวใจของมิโกะ นาม มิโดริโกะ ผู้มีอำนาจในการชำระล้างความชั่วร้าย และมีพลังวิญญาณที่แกร่งกล้าที่สุดเท่าที่เคยมีมา เหล่าปีศาจที่เจ็บแค้นและกลัวอำนาจของมิโดริโกะจำนวนหลายสิบหลายร้อยตน ได้รวมร่างกันเพื่อสังหารมิโดริโกะ (แต่ในฉบับมังงะ พวกปีศาจได้แทรกเข้าไปในช่องว่างของจิตใจชายคนรักของมิโดริโกะ จนกำเนิดเป็นปีศาจตัวใหม่ คล้ายการเกิดของนาราคุ) ฝูงปีศาจและมิโดริโกะต่อสู้กันเป็นเวลา 7 วัน 7 คืน จนมิโดริโกะอ่อนแรงและถูกกินไปครึ่งหนึ่ง มิโดริโกะจึงตัดสินใจควักหัวใจของปีศาจมาใส่ไว้ในหัวใจของตนเองและหลอมรวม ไว้กลายเป็นลูกแก้วสี่วิญญาณ
ลูกแก้วสี่วิญญาณสามารถเพิ่มพลังอำนาจให้ทุกสิ่ง ตั้งแต่เพิ่มความแข็งแกร่ง ลดอาการเจ็บป่วย ชุบชีวิตคนตายได้ รวมถึงทำให้ผู้ครอบครองลูกแก้วสมความปรารถนาได้ จึงเป็นที่ต้องการของทั้งมนุษย์และปีศาจ หากลูกแก้วตกไปอยู่ในมือของคนชั่ว หัวใจของปีศาจภายในลูกแก้วจะมีอำนาจมากกว่า จนกลายเป็นสีดำ และมีอำนาจในการทำลายล้าง แต่ถ้าอยู่ในมือของผู้มีพลังชำระ (เช่นคิเคียว และคาโงเมะ) จิตของมิโดริโกะก็จะมีพลังมากกว่า ลูกแก้วจะบริสุทธิ์ และมีอำนาจในการปกป้อง

ดาบเขี้ยวอสูร

เป็นดาบที่ตีขึ้นจากเขี้ยวของอินุไทโชให้แก่อินุยาฉะไว้เพื่อปิดผนึกสาย เลือดอสูรของอินุยาฉะ มีพลังในการปกป้อง สามารถตวัดดาบเพียงครั้งเดียวฆ่าได้เป็นร้อย โดยฟันเข้าไปยังแผลแห่งลม คือช่องระหว่างไอปีศาจที่มาปะทะกัน แต่หลังจากการต่อสู้หลายครั้งทำให้ดาบหักอินุยาฉะจึงใช้เขี้ยวตัวเองผสมกับ เขี้ยวของพ่อตีเป็นดาบเขี้ยวอสูรแต่มีความหนักมากวิธีแก้ไขคือต้องใช้เขี้ยว ของภูตมังกรกระดูก แต่จากการต่อสู้กับภูตมังกรกระดูกทำให้ดาบเขี้ยวอสูรเบาขึ้น และมีพลังคือสามารถใช้แผลแห่งลมได้ทุกเมื่อ และพลังคลื่นระเบิด ซึ่งใช้ได้กับอสูรที่มีพลังสูงเท่านั้น ต่อมาได้พลังในการทำลายเขตอาคมเป็นดาบเขี้ยวอสูรสีแดงจากการทำลายลูกแก้ว ของอสูรที่มีพลังสร้างเขตอาคมที่แข็งแกร่ง และจากการไปสุสานอินุไทโซทำให้ได้พลังคลื่นอสูรลิ่มเพชร และได้หลอมดาบเขี้ยวอสูรกับดาบเขี้ยวฟ้าฟื้นทำให้ได้พลังจันเสี้ยวปรภพมา และยังเป็นตัวแทนแห่งโลกมนุษย์อีกด้วย

ดาบเขี้ยวฟ้าฟื้น

ดาบเขี้ยวฟ้าฟื้น หรืออีกชื่อคือ ดาบ เท็นเซกะ คือ 1 ใน 3 ของดาบที่ตีขึ้นจากเขี้ยวของ อินุไทโช ผู้เป็นบิดาของอินุยาฉะและเซสโซมารุ มีลักษณะพิเศษคือไม่สามารถฟันสิ่งในภพธรรมดา แต่สามารถฟาดฟันสิ่งที่มีอยู่ในภพความตายได้ มีพลังอำนาจในการเรียกคืนวิญญาณ หรือ ชุบชีวิตให้กับคนตาย โดยการใช้ดาบเล่มนี้ฆ่าทูตมรณะที่จะมาวนเวียนใกล้ๆกับศพ
อย่างไรก็ตามดาบเขี้ยวฟ้าฟื้น ไม่อาจคืนชีวิตแก่ผู้ที่ตายเป็นเวลานาน หรือ ปีศาจบางตัวได้ (เพราะปีศาจส่วนใหญ่จะสลายไปทันทีที่สิ้นใจ) ผู้ที่ฟื้นคืนชีพจากดาบเล่มนี้ ได้แก่ เจ้าหญิงอิซาโยย จาเก็น ริน เป็นต้น และดาบเขี้ยวฟ้าฟื้นจะใช้ชุบชีวิตผู้ตายได้เพียงครั้งเดียวเท่านั้น
ดาบเขี้ยวฟ้าฟื้น เป็นมรดกสิ่งเดียวที่อินุไทโชเหลือไว้ให้เซสโซมารุ ซึ่งเซสโซมารุในตอนแรกเกลียดดาบเล่มนี้และไม่เคยชักขึ้นใช้ เพราะคิดว่าบิดาลำเอียง รักแต่ลูกที่เกิดจากหญิงมนุษย์ ถึงขนาดมอบดาบเล่มสำคัญอย่างเขี้ยวอสูรให้ แต่พอเรื่องราวต่างๆค่อยๆผ่านเข้ามา เซสโซมารุจึงเข้าใจว่า อินุไทโชต้องการสอนถึงความสำคัญของการมีชีวิตอยู่ และความรักความรู้สึกที่มีให้กับผู้อื่น จากดาบเล่มนี้นั่นเอง หลังจากที่เซสโซมารุต้องเสียดาบโทคิชินไปเพราะต้องการล้างแค้นให้กับคากุระ โทโตไซก็ได้เสนอตัวเข้ามาพัฒนาดาบเขี้ยวฟ้าฟื้นจนสามารถเรียกจันทร์เสี้ยว ปรภพ (เมโด) ซึ่งสามารถดูดร่างกายของศัตรูไปยังอีกภพได้ เซสโซมารุจึงใช้ดาบเขี้ยวฟ้าฟื้นเป็นอาวุธหลัก กระทั่งสามารถเรียกจันทร์เต็มดวง ซึ่งเป็นขั้นสุดยอดของดาบเขี้ยวฟ้าฟื้นได้
จากการประมือกับอินุยาฉะดาบเล่มนี้จึงถูกหลอมรวมเข้าเป็นดาบของอินุยาฉะในที่สุด เป็นตัวแทนสวรรค์

ดาบเขี้ยวเมฆาคลั่ง

ดาบเขี้ยวเมฆาคลั่ง หรือ ดาบโซอุนกะ เป็นดาบเล่มสุดท้ายใน 1 ใน 3 ดาบที่เป็นตัวแทนของอินุไทโช ดาบเล่มนี้สร้างขึ้นมาด้วยจุดมุ่งหมายที่แตกต่างจากสองเล่มแรกอย่างสิ้นเชิง เพราะโซอุนกะมีจิตใจเป็นของตนเอง และจะคอยบงการผู้ถือดาบให้เป็นไปในทางที่ตนต้องการ ดาบเล่มนี้มีอำนาจในการทำลายล้างอันเลวร้ายและรุนแรง สามารถเปิดนรก เรียกพายุหมุน เรียกพลังอสูรในร่างกาย แปรเปลี่ยนจิตใจให้กลายเป็นชั่วร้าย และคืนสภาพศพในรูปร่างผีดิบเพื่อใช้เป็นกองทัพได้ ถือเป็นดาบตัวแทนนรก
ดาบเขี้ยวเมฆาคลั่ง ปรากฏตัวครั้งแรกใน อินุยาฉะเดอะมูฟวี่ 3 อภินิหารดาบครองฟ้าดิน โดยหลอมรวมกับมือที่ขาดไปของเซสโซมารุ คอยสิงสู่ผู้ถือดาบ ซึ่งพลังที่อันตรายนี้เองที่ดึงดูดให้สองพี่น้องแย่งชิงดาบเล่มนี้ เซสโซมารุต้องการนำไปใช้ และอินุยาฉะต้องการจะทำลาย
แต่ทว่าดาบกลับตกไปอยู่ในมือ"ทาเคมารุ" ซามูไรผู้เป็นศัตรูคนสำคัญของอินุไทโช และทำลายล้างจนโลกเกือบดับสูญ ทั้งสองพี่น้องจึงร่วมมือกันทำลายดาบโซอุนกะ และทิ้งมันกลับคืนสู่นรกภูมิ เป็นตัวแทนนรก

ดาบเขี้ยวดินระเบิด

เป็นดาบที่อยู่ในร่างกายของเส็ตโชมารู ซึ่งจะได้มาก็ต้องหลุดพ้นจากการต้องการดาบเขี้ยวอสูรซะก่อน ดาบนี้ได้มาจากตอนการต่อสู้กับมากาซึฮิ และปรากฏมาพร้อมกับ แขนข้างซ้ายที่เคยถูกตัดไป และดาบเขี้ยวดินระเบิดมีคุณสมบัติคือ ฟันปิศาจแค่ทีเดียวจะระเบิดไปทั้งหมด และไม่เหลือแม้แต่เศษซาก ถ้าหากใครมาจับต้องซากที่ระเบิดหรือยังระเบิดไม่หมด ก็จะโดนระเบิดนั่นทำลายไปด้วย

ไข่มุกดำ

เป็นอัญมณีเชื่อมต่อระหว่างโลกมนุษย์กับปรภพ อินุไทโชเคยใส่ไว้ในดวงตาขวาของอินุยาฉะตั้งแต่ยังจำความไม่ได้ แต่ถูกเส็ตโชมารูดึงออกมาในครั้งที่จะไปเอาดาบเขี้ยวอสูรจากสุสานอินุไทโช และไข่มุกดำเมื่อหมดหน้าที่ก็สลายไป


วันจันทร์ที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2556

ึ7 ghost

 


เนื้อเรื่อง

เทย์โตะ ไคลน์เป็นอดีตทาสที่สูญเสียความทรงจำและได้เข้าเรียนที่โรงเรียนเตรียมทหาร ของกองทัพบาสเบิร์กกับเพื่อนสนิทที่ชื่อมิคาเงะ หลังจากการสอบบรรจุเสร็จสิ้นลง เทย์โตะได้บังเอิญไปได้ยินเป้าหมายของการคัดเลือกทหารเข้า รวมถึงความจริงที่ว่าพ่อของเขาถูกกองทัพสังหาร เขาจึงถูกจับขัง แต่มิคาเงะก็ช่วยเขาไว้ เทย์โตะจึงสามารถหนีไปจนถึงเขตที่7 ซึ่งมีโบสถ์ขนาดใหญ่อยู่และได้พบกับบิชอป3คนที่ช่วยเขาไว้และได้อาศัยอยู่ ที่โบสถ์ แต่ว่าอายานามิซึ่งเป็นเสนาธิการของกองทัพก็ส่งมิคาเงะมาสังหารเทย์โตะ เมื่อมิคาเงะปฏิเสธ อยานามิจึงควบคุมวิญญาณของมิคาเงะและพยายามสังหารเทย์โตะ แต่ดวงเนตรแห่งมิคาเอลซึ่งกองทัพตามหาอยู่ที่อยู่ในตัวของเทย์โตะก็ได้ตื่น ขึ้นและช่วยเขาไว้ หลังจากนั้นเทย์โตะจึงเลือกที่จะแก้แค้นอายานามิพร้อมกับตามหาความทรงจำของ ตนเองและเข้าสู่สงครามศักดิ์สิทธิ์ระหว่างแวร์โลเรนและเทพมรณะทั้ง7

ตัวละคร

ตัวละครหลัก

เทย์โตะ ไคลน์
เด็กผู้ชายที่สูญเสียความทรงจำและได้เข้าเรียนที่โรงเรียนเตรียมทหารของ กองทัพบาสเบิร์ก หลังจากการสอบเสร็จเทย์โตะได้รู้ความจริงเกี่ยวกับอดีตของตนรวมถึงเรื่องที่ อายานามิ เสนาธิการของกองทัพเป็นผู้สังหารพ่อของตน เทย์โตะจึงต้องประสบกับการตามล่าของกองทัพและต้องสูญเสียเพื่อนรักของตนไป ด้วย เทย์โตะจึงเลือกที่จะตามหาความทรงจำของตนเองพร้อมกับแก้แค้นให้เพื่อนของเขา พร้อมกับฟราว บิชอปที่เดินทางไปกับเทย์โตะเพื่อค้นหาความจริงเกี่ยวกับราชอาณาจักรรักส์ ที่ถูกทำลาย เทย์โตะมีชื่อจริงว่าวาหร์ไฮท์ เทียเช่ รักส์โดยเป็นรัชทายาทของอาณาจักรรักส์ที่ล่มสลายและเป็นภาชนะบรรจุของดวงเนตรแห่งมิคาเอลซึ่งเป็นอัญมณีในตำนานของแร็กส์ที่สามารถกอบกู้อาณาจักรได้อยู่ด้วย
มิคาเอล

เป็นบุคลิกอีกบุคลิกหนึ่งของเทย์โตะซึ่งเกิดจากดวงเนตรแห่งมิคาเอลที่ฝัง อยู่ที่มือขวา มิคาเอลหลงใหลในตัวของเทย์โตะมากและมีพลังเวทมหาศาลถึงขนาดทำลายทวีปทั้ง ทวีปได้ มิคาเอลมีนิสัยที่เอาแต่ใจตัวเอง เจ้ากี้เจ้าการ แต่ก็พร้อมจะสังหารทุกคนที่คิดจะทำร้ายเทย์โตะ สัญลักษณ์ที่บอกว่าเทย์โตะกำลังเป็นมิคาเอลอยู่คือ ดวงตาจะเป็นสีแดงและรูม่านตาจะแคบลง

โบสถ์บาสเบิร์ก

ฟราว
บิชอปที่ ช่วยเหลือเทย์โตะตอนที่เทย์โตะหนีจากกองทัพของจักรวรรดิและออกเดินทางไป พร้อมกับเทย์โตะ ฟราวเป็นบิชอปที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมหลายอย่าง ทั้งอ่านหนังสือโป๊ ค้างงาน หนีพิธีมิสซา แต่กลับมีความสามารถในการต่อสู้สูงและเป็นเซเว่นโกสต์คนเดียวที่ควบคุมเคียว ของเวอโลเรนได้ ฟราวจำเป็นต้องร่วมเดินทางไปกับเทย์โตะด้วยเหตุผลสองประการคือ เพื่อดูแลเทย์โตะและคอยเตือนปลอกคอทาสของเทย์โตะว่าฟราวยังอยู่กับเทย์โตะ เพราะฟราวไปทำสัญญาทาสกับเทย์โตะโดยพลการ ถ้าฟราวกับเทย์โตะอยู่ห่างกันเกิน48ชั่วโมง ปลอกคอก็จะระเบิด ฟราวเป็นหนึ่งในเซเว่นโกสต์นามว่าเซเฮล
คาสเตอร์
บิชอปอีกคนที่ช่วยเทย์โตะและดูแลเทย์โตะระหว่างที่อยู่ที่โบสถ์ คาสเตอร์เป็นผู้ที่มักจะคอยจัดการกับฟราวเวลาที่ฟราวอ่านหนังสือโป๊หรือจีบ สาวอยู่เสมอ คาสเตอร์มีงานอดิเรกเป็นการสร้างตุ๊กตา"ซิสเตอร์ดอล"หรือตุ๊กตาเลียนแบบ มนุษย์ขนาดเท่าของจริงและเคลื่อนไหวได้ด้วยไซฟอนของคาสเตอร์ คาสเตอร์หมกมุ่นกับเรื่องนี้มากถึงขนาดถูกฟราวเรียกว่า"โอตาคุบ้าตุ๊กตา"เลย ทีเดียว คาสเตอร์มีชื่อจริงว่าซิงลู่ เฮาเซ่นและเป็นหนึ่งในเซเว่นโกสต์นามว่าเฟสต์
ลาบราดอร์
บิชอปคนที่สามที่ช่วยดูแลเทย์โตะระหว่างตอนที่อยู่ที่โบสถ์ ลาบราดอร์มีงานอดิเรกเป็นการปลูกดอกไม้และชงชา ซึ่งดอกไม้และชาของลาบราดอร์เป็นหนึ่งในของขึ้นชื่อของเขตที่ 7 เลยทีเดียว ลาบราดอร์มักจะยิ้มอย่างอ่อนโยนและช่วยเหลือผู้อื่นอยู่เสมอ แม้แต่ฟราวเองก็ยังสุภาพกับลาบราดอร์ ดอกไม้ของลาบราดอร์นั้น ไม่ได้มีแค่ดอกไม้ที่สวยงามหรือมีรสชาติดี แต่ยังมีดอกไม้ที่ใช้ต่อสู้กับคอร์และเติบโตได้โดยมีคอร์หรือพลังมืดเป็น อาหารซึ่งลาบราดอร์ใช้ดอกไม้เหล่านี้เป็นอาวุธในการต่อสู้ แต่โดยปกติลาบราดอร์จะไม่ค่อยชอบการต่อสู้นัก ลาบราดอร์มีชื่อจริงว่า"อิลูช่า คราท"สามารถมองเห็นอนาคตได้และเป็นหนึ่งในเซเว่นโกสต์นามว่าโพรเฟ่
รันเซ่
บิชอปที่ดูแลการสอบ มีลักษณะเด่นคือปอยผม มักจะกัดกับฟราวอยู่บ่อยๆ โดยที่ฟราวจะมีกรรไกรอันหนึ่งที่เตรียมไว้จัดการกับผมของรันเซ่โดยเฉพาะ รันเซ่เป็นบิชอปที่หลงทางง่ายมาก ถ้าลองออกจากเขตที่ 7 แล้วจะไม่มีวันหาทางกลับมาที่เขตที่ 7 เจอจนกว่าจะได้เดินทางไปทั่วประเทศเสียก่อน นอกจากนี้ยังคลั่งการดูดวง โดยจะซื้อหนังสือดูดวงมาอ่านหาลักกี้ไอเทมทุกเช้า รันเซ่เคยเป็นลูกศิษย์ของลาบราดอร์และเป็นเซเว่นโกสต์นามว่าเรลิกต์
แฟร์ ครอยส์
อดีตบิชอปของโบสถ์ เป็นผู้ที่เทย์โตะเรียกว่า"ฟาเธอร์"และคอยดูแลเทย์โตะตั้งแต่เทย์โตะเกิดมา แต่ว่าเทย์โตะกลับถูกเปลี่ยนเป็นกล่องแพนโดราโดยสันตะปาปา ครอยส์จึงขโมยตัวเทย์โตะมา ส่วนสันตะปาปาก็ใส่ข้อหาให้ครอยส์เป็นผู้ขโมยกล่องแพนโดราหนีมาและจุดชนวนสง ครามรักส์ขึ้น แฟร์ ครอยส์เป็นน้องชายของกษัตริย์แห่งรักส์ จึงมีศักดิ์เป็นอาแท้ๆของเทย์โตะแต่เทย์โตะไม่ได้รู้เรื่องนี้เลย นอกจากนี้ยังเป็นเซเว่นโกสต์นามว่าแฟร์ทราก
บาสติน
เป็นผู้ช่วยอาร์คบิชอปแห่งโบสถ์บาสเบิร์กและอาจารย์ของฟราว แท้จริงแล้วเป็นหนึ่งในแบล็คฮอว์กที่แฝงตัวเข้ามาในโบสถ์ บาสตินมีสำนึกในความยุติธรรมอย่างแรงกล้าถึงขนาดใช้วาลส์สังหารอดีตนักโทษ ที่ทำงานอยู่ที่โบสถ์เลยทีเดียว นอกจากนี้ยังคิดจะสังหารเทย์โตะเพราะมีคำสั่งจากจักรวรรดิด้วย บาสตินถูกฟราวสังหารและเกิดใหม่เป็นต้นไอวี่ซึ่งว่ากันว่าเป็นต้นไม้ที่อายุ ยืนที่สุดฟราวนำไปปลูกไว้ที่กลางสวนของลาบราดอร์ตรงที่มีแสงแดดสาดส่องมาก ที่สุด
ราเซ็ท
นางเงือกโนเอลที่อยู่ในสระน้ำของโบสถ์ เป็นนางเงือกที่หายากถึงขนาดถูกเรียกว่าเป็นภาพมายา ซิงลู่ไปพบเข้าตอนที่กวาดล้างกบฏและเกิดถูกใจจึงนำมาเลี้ยงไว้ แต่หลังจากสงครามรักซ์ ตระกูลเฮาเซ่นที่เข้าร่วมกับฝ่ายรักซ์และพ่ายแพ้สงครามจะต้องส่งหัวของซิ งลู่ไปเป็นบรรณาการ แต่พ่อของซิงลู่ได้บอกให้ซิงลู่ใช้ความสามารถของราเซ็ตที่เปลี่ยนใบหน้าได้ เปลี่ยนเป็นหน้าของซิงลู่แล้วตัดส่งไปแทน แต่ซิงลู่กลับฆ่าตัวตายเพื่อปกป้องราเซ็ตทำให้ตระกูลรอดพ้นจากการถูกกำจัด เมื่อซิงลู่กลายเป็นเซเว่นโกสต์ก็ได้เปลี่ยนชื่อเป็นคาสเตอร์และสร้างร่าง ของราเซ็ตที่ฆ่าตัวตายตามขึ้นมาใหม่และย้ายมาอยู่ที่โบสถ์ของเขตที่ 7 ราเซ็ตสนิทกับคาสเตอร์มากทีสุดและกลัวฟราว แต่กลับสนิทกับเทย์โตะทั้งที่กลัวคนแปลกหน้า นอกจากนี้ราเซ็ตยังพูดไม่ได้แต่ร้องเพลงได้ดีและเป็นนักเล่นออร์แกนของโบสถ์อีกด้วย

จักรวรรดิบาสเบิร์ก

แบล็คฮอว์ก
หน่วยสืบราชการลับของกองทัพ มีสมาชิกทั้งหมดเป็นวาลส์ไฟล์ที่มีความสามารถสูง สามารถยึดประเทศทั้งประเทศได้ด้วยเวลาเพียง5ชั่วโมงโดยหน่วยแบล็คฮอว์กจะฟัง คำสั่งโดยตรงจากจอมพลแต่เพียงผู้เดียว มีอายานามิเป็นหัวหน้าหน่วย
เสนาธิการ อายานามิ
หัวหน้าหน่วยแบล็คฮอว์ก เป็นผู้ที่สังหารกษัตริย์แห่งรักซ์และแฟร์ ครอยส์ และเป็นผู้ที่สังหารมิคาเงะอีกด้วย เป็นผู้ที่เทย์โตะต้องการสังหารมากที่สุด อายานามิตามหาดวงเนตรแห่งมิคาเอลเพื่อที่จะให้ร่างกายของแวร์โรเรน(ตัวเขา เอง)ได้คืนชีพขึ้นมาบนโลก อายานามิมีความสัมพันธ์ทางสายเลือดกับเทย์โตะ โดยเป็นพี่น้องกับพ่อของเทย์โตะ คือ โครม(พ่อของเทย์โตะ) ครอยส์(ฟาเทอร์หรืออาของเทย์โตะ) โครเวล(อายานามิ)
พันเอก คัตสึรางิ
ผู้ช่วยของอายานามิ แต่อย่างไรก็ตาม เขาก็ไม่ค่อยสนิทกับแบล็กฮอว์กคนอื่นมากนักและยังเป็นสายลับเพื่อแทรกซึมแบ ล็กฮอว์กอีกด้วย สาเหตุและตัวจริงยังไม่แน่ชัด แต่โดยปกติคัตสึรางิจะเป็นคนคอยเสิร์ฟน้ำชาหรือเค้กให้หน่วยแบล็กฮอว์กตอน ที่ทำงานเอกสารอยู่และคอยจัดการกับสมาชิกของแบล็กฮอว์กที่ก่อปัญหาและเป็นเซ เว่นโกสต์นามว่าลันด์คาร์เต้ ลันด์คาร์เต้คือเงาดำที่ล่อลวงพระสันตะปาปา ลันนด์คาร์เต้คือคนเอาเคียวของแวร์โรเรนใส่ฟราว และเป็นคนที่ทำให้เกิดโศกนาฏกรรมสังหารหมู่เซเว่นโกสต์รุ่นที่แล้ว(เซ เว่นโกสต์รุ่นของกิโดะ)
พันโท คุโรยูริ
สมาชิกของแบล็กฮอว์ก มีอายุน้อยที่สุดในกลุ่ม มีนิสัยเหมือนเด็กแต่ก็มีฝีมือดี คุโรยูริมักจะงีบหลับเวลาประชุมหน่วยหรือทำงานเอกสารอยู่เสมอ แต่จะถนัดทำงานภาคสนามมากกว่า ชอบอยู่กับฮารุเสะซึ่งเป็นผู้ช่วยของตนเอง เมื่อฮารุเสะถูกมิคาเอลดึงเอาจิตใจไป คุโรยูริก็เอาแต่ใจมากขึ้น แต่ก็ยังทำงานให้แบล็กฮอว์กอยู่
ฮารุเสะ
ผู้ช่วยของคุโรยูริ มีความสามารถในการเคลื่อนย้ายสถานที่ได้ในพริบตา แต่ถูกลาบราดอร์กับมิคาเอลเล่นงาน ทำให้อยู่ในสภาพเจ้าชายนิทรา ต่อมาคาสเตอร์ได้ช่วยทำให้สติกลับมา
พันตรี ฮิวงะ
สมาชิกแบล็คฮอว์ก มีความสามารถในการต่อสู้สูงที่สุดในกลุ่มโดยเป็นรองแค่อายานามิเท่านั้น แต่กลับชอบอู้งานและมักจะโดนอายานามิลงโทษอยู่บ่อยๆ ฮิวงะกลัวเสัยงเข็มขัดกระทบกัน เพราะนั่นเป็นสัญญาณของการลงโทษของอายานามิ แต่ก็ไม่เคยเข็ดหลาบ ฮิวงะจะสวมแว่นดำและพกดาบคะตะนะสองเล่มติดตัวไว้เสมอ ถูกลันด์คาร์เต้(คัตสึรางิ)เล่นงานแต่ยังไม่ตา ปัจจุบันรักษาตัวอยู่ในตู้น้ำ
โคนัตสึ
ผู้ช่วยของฮิวงะ เคารพในตัวฮิวงะมาก แต่ก็รับไม่ได้กับความขี้เกียจของฮิวงะและหัวเสียกับเรื่องนี้ทุกครั้ง โคนัทสึเป็นคนที่เอาจริงเอาจังกับทุกเรื่องจึงสติแตกได้ง่ายโดยเมื่อสติแตก แล้วฮิวงะจะเป็นคนช่วยล็อกเอาไว้ไม่ให้ฆ่าใครตายไปเสียก่อน และเป็นผู้ดูแลสมาชิกใหม่ในแบล็กฮอว์กและคอยดูแลคุโรยูริหลังจากที่ฮารุเสะ โดนเล่นงาน
ยูกิ และ ซูซุ
ผู้ช่วยของอายานามิและสมาชิกใหม่ของแบล็กฮอว์ก เป็นทาสฝาแฝดที่มีความสามารถสูงในด้านการต่อสู้ ถูกฮิวงะเก็บมาจากอันท์วอร์ท มักจะมีปัญหาในการสื่อสารเพราะทั้งคู่ใช้ภาษารักส์ ซึ่งในหน่วยแบล็คฮอว์กมีแค่อายานามิที่พูดได้ แต่ก็เรียนรู้ภาษาบาสเบิร์กและพูดได้คล่องในตอนหลัง
ชูริ โอ๊ค
สมาชิกคนล่าสุดของแบล็คฮอว์กซึ่งเข้ามาได้ด้วยอำนาจทางทหารของจอมพลโอ๊คผู้ เป็นพ่อ ไม่มีความสามารถทางการต่อสู้ใดๆและยังเอาแต่ใจตัวเองยิ่งกว่าคุโรยูริเสีย อีก เคารพชื่นชมในตัวโคนัทสึเพราะโคนัทสึช่วยชีวิตเขาไว้หลังจากตอนที่ไปบุกอัน ท์วอร์ท
ตัวละครอื่นๆในจักรวรรดิ

จอมพลวาราบะ โอ๊ค
จอมพลของกองทัพบาส์บูกร์ เป็นพ่อของชูริ มีความสามารถด้านการทหารสูงผิดกับลูกชายแต่ก็ตามใจลูกชายจนเสียคน เป็นคนพาชูริไปยัดเยียดไว้กับฮิวงะที่แบล็คฮอว์ก ปัจจุบันถูกอายานามิสังหาร
โรเซียมาแนล โอกะ บาส์บูกร์(ญี่ปุ่น: ロゼアマネル=オウカ=バルスブルグ Rozeamanere Ouka Barusuburugu ?อังกฤษ: Roseamanelle Ouka Barsburg)
ภาชนะบรรจุของดวงเนตรแห่งราฟาเอลและองค์หญิงรัชทายาทแห่งจักรวรรดิบาส์บูกร์ มีชื่อเรียกสั้นๆว่า"โอกะ"เพราะเป็นองค์หญิงรัชทายาทจึงมักจะถูกคนในราชวงศ์ ลอบสังหารอยู่บ่อยๆถึงขนาดที่ถูกวางยาพิษในอาหารทุกมื้อเลยทีเดียว ซึ่งโอกะก็เบื่อเรื่องนี้เป็นอย่างมากทำให้บางครั้งก็หนีออกมาเที่ยวเล่น และเจอกับเทย์โตะในเขตที่5โดยที่เทย์โตะได้ไปเที่ยวตามหาฟราวโดยมีโอกะไป ด้วยเป็นเวลา1วันเต็มๆโดยที่ทั้งสองได้รู้จักกันและกันมากขึ้น นอกจากนี้ทั้งสองยังรู้สึกคุ้นเคยกันอย่างน่าประประหลาด หลังจากที่เทย์โตะช่วยโอกะจากวาลส์และได้ตั๋วผ่านต้องคำสาปของโพรเฟ่มาเล้ว ทั้งสองก็ได้แยกจากกัน แต่ก่อนจากกันทั้งสองก็ได้บอกชื่อจริงของตนเองซึ่งเมื่อโอกะได้ยินชื่อจริง ของเทย์โตะ ราฟาเอลก็ปรากฏตัวขึ้นและพยายามจะฆ่าเทย์โตะ แต่ฮาคุเรนก็มาขัดจังหวะจึงสามารถเรียกสติกลับมาได้ ภายหลังแอร์(คาล)ได้มาบอกว่า โอกะ นั้นตายไปแล้ว ร่างที่อยู่ในปัจจุบันนี้เป็นร่างทดลองของนักวิทยาศาสตร์ ซึ่งแอร์(คาล)เป็นคนนำวิญญาณของโอกะมาใส่ในร่างของนักวิทยาศาสตร์
มิโรคุ
อดีตจอมพลของกองทัพ ปัจจุบันเป็นผู้อำนวยการของโรงเรียนนายร้อยที่เทย์โตะเคยเรียนอยู่ เป็นผู้ที่เก็บเทย์โตะมาจากสังเวียนทาสต่อสู้และให้เข้าเรียนที่โรงเรียนนาย ร้อยด้วยสาเหตุบางอย่าง เป็นผู้บัญชาการเงาของแบล็กฮอว์กและยังล่วงรู้ความลับบางอย่างเกี่ยวกับดวง เนตรแห่งมิคาเอลอีกด้วย
คาล<kal> เบกไลเตอร์ของมิโรคุเป็นเซเว่นโกสต์นามว่าแอร์ มีบันทึกแห่งฮาเดสที่จดบันทึกความดีและความชั่วของมนุษย์ซึ่งคาลเป็นผู้ดูแล เท่านั้นไม่สามารถแก้ไขได้ คาลเป็นผู้ดูแลเทย์โตะตอนที่มาอยู่กับมิโรคุและเป็นคนที่นำดวงวิญญาณของโอกะ มาใส่ในร่างทดลองของนักวิทยาศาสตร์ เพื่อนสนิทของลันด์คาร์เต้ มีความสามารถทักษะพิเศษ นอกจากเป็นยอดฝีมือด้านการต่อสู้แล้ว เขายังสามารถติดตามเป้าหมาย หรือสะกดรอยและหลบหนีได้ดีอีกด้วย และเป็นคนเดียวที่รอดจากโศกนาฏกรรมสังหารหมู่เซเว่นโกสต์รุ่นที่แล้ว(เซ เว่นโกสต์รุ่นของกิโดะ) ภายหลังโดนลันด์คาร์เต้สังหาร

เซเว่นโกสต์และเวอโลเรน

เวอโลเรนคือสิ่งที่เจ้าแห่งสวรรค์สร้างขึ้นเพื่อคอยควบคุมดูแลมนุษย์ แต่กลับไปสังหารลูกสาวของเจ้าแห่งสวรรค์ จึงถูกมิคาเอลและราฟาเอลปิดผนึก โดยมิคาเอลผนึกร่างกาย ราฟาเอลผนึกวิญญาณ หลังจากนั้นเจ้าแห่งสวรรค์จึงสร้างเซเว่นโกสต์ขึ้นเพื่อดูแลผนึกของเวอโลเรน เซเว่นโกสต์แต่ละตนจะมีความสามารถของเวอโลเรนคนละหนึ่งอย่าง เพื่อไม่ให้เกิดเวอโลเรนอีกคนขึ้น
  • เซเฮล เซเว่นโกสต์ผู้ตัดวิญญาณ เป็นผู้ทำลายโชคร้ายที่คอยทำลายมนุษย์ มีฟราวเป็นร่างทรง
  • เฟสต์ เซเว่นโกสต์ผู้ผูกวิญญาณ เป็นผู้ที่คอยผูกสายสัมพันธ์ให้ผู้คน มีคาสเตอร์เป็นร่างทรง
  • โพรเฟ่ เซเว่นโกสต์ผู้บอกเล่าวิญญาณ เป็นผู้ที่มองเห็นอนาคต มีลาบราดอร์เป็นร่างทรง
  • ลันด์คาร์เต้/รันด์คัลท์ เซเว่นโกสต์ผู้ดับวิญญาณ ยังไม่ทราบหน้าที่ มีคัตสึรางิเป็นร่างทรง
  • เรลิกต์ เซเว่นโกสต์ผู้สืบทอดวิญญาณ เป็นผู้ที่ตรวจสอบอดีตของมนุษย์ มีรันเซ่เป็นร่างทรง
  • แอร์ เซเว่นโกสต์ผู้ปลุกวิญญาณ เป็นผู้พิพากษาวิญญาณบนโลก มีคาลเป็นร่างทรง
  • แฟร์ทราก เซเว่นโกสต์ผู้สัญญาวิญญาณ เป็นผู้ที่ควบคุมวิญญาณบนโลก มีแฟร์ ครอยส์เป็นร่างทรง

ศัพท์เฉพาะภายในเรื่อง

จักรวรรดิบาสเบิร์ก

จักรวรรดิที่ตัวละครส่วนใหญ่อาศัยอยู่ แบ่งออกเป็น7เขตตั้งแต่เขตที่1-7 จักรวรรดิจะมีขั้วอำนาจปกครองอยู่2ขั้วอำนาจคือ ราชวงศ์และโบสถ์ซึ่งมีอำนาจทัดเทียมกันซึ่งถ่วงดุลกันอยู่ ตามประวัติศาสตร์ของจักวรรดิ จัรรวรรดิและราชอาณาจักรรักซ์ได้ตกลงทำสัญญาสันติภาพกัน แต่ราชอาณาจักรรักซ์ละเมิดข้อสัญญาจึงถูกยึดเป็นเมืองขึ้น ราชอาณาจักรรักซ์อยู่บริเวณทางเหนือของจักรวรรดิ จักรวรรดิบาสเบิร์กมีดวงเนตรแห่งราฟาเอลเป็นสมบัติประจำชาติ
ราชอาณาจักรรักซ์
อดีตประเทศที่เคยมีอำนาจทัดเทียมกับจักรวรรดิและที่ที่เทย์โตะเคยอาศัยอยู่ เป็นประเทศที่ครอบครองดวงเนตรแห่งมิคาเอลและดูแลกล่องแพนโดราที่บรรจุร่าง ของแวร์โรเรนเอาไว้ แต่เมื่ออาณาจักรถูกทำลาย กล่องแพนโดราก็สาบสูญไป ปัจจุบันกลายเป็นเขตในทางเหนือของจักรวรรดิ
ไซฟอน
เวทมนตร์ที่ใช้ในเรื่อง โดยไซฟอนคือการดึงเอาพลังของสิ่งที่อยู่รอบตัวมาใช้โดยการวาดตัวอักษรขึ้น ด้วยมือ ผู้ที่ใช้ไซฟอนได้นั้นหาได้ยากถึงขนาดถูกเรียกว่าได้รับพรจากพระเจ้าเลยที เดียว ตัวอักษรไซฟอนถูกสร้างขึ้นโดยมีอักษรภาษาอังกฤษเป็นพื้นฐาน ไซฟอนมีด้วยกันทั้งหมด3ประเภทคือ
1.ไซฟอนโจมตี เป็นไซฟอนที่สามารถสร้างความเสียหายให้คนหรือสิ่งของได้ สามารถนำมาใช้เพื่อต่อสู้กับคนอื่นและเป็นไซฟอนที่ผู้คนส่วนใหญ่ใช้กัน ผู้ที่ใช้ไซฟอนแบบนี้ได้แก่ เทย์โตะ ฟราว ฮาคุเรน อายานามิ ฯลฯ
2.ไซฟอนรักษาเป็นไซฟอนที่ใช้รักษาความเสียหายที่เกิดขึ้นกับคนหรือสิ่งของ ผู้ที่ใช้ไซฟอนแบบนี้ได้แก่ ลาบราดอร์และบาสติน
3.ไซฟอนพิเศษเป็นไซฟอนที่มีความสามารถนอกเหนือจากสองประเภทที่ กล่าวมาข้างต้น เช่น เคลื่อนย้ายสิ่งของ ผู้ที่ใช้ไซฟอนประเภทนี้หาได้ยากมากแม้ในหมู่ผู้ใช้ไซฟอนด้วยกัน ผู้ที่ใช้ไซฟอนประเภทนี้ปัจจุบันมีเพียงแค่คาสเตอร์คนเดียว
ความฝันสามประการ
ความเชื่อของผู้คนในโลกของเซเว่นโกสต์ มีเนื้อหาว่า"ก่อนที่มนุษย์จะถือกำเนิด เจ้าแห่งสวรรค์จะให้พรพวกเขาสามข้อ เมื่อเกิดมาแล้ว มนุษย์จะต้องทำความฝันเหล่านั้นให้สำเร็จ เมื่อทำสำเร็จก็จะกลับไปอยู่กับเจ้าแห่งสวรรค์อีกครั้ง"
คอร์
จากความเชื่อเรื่องความฝันสามประการ มนุษย์จะต้องทำความฝันให้สำเร็จด้วยตนเอง แต่คอร์จะเข้ามาแทรกแซงและทำให้สมหวังและนำพาผู้คนเข้าสู่ความมืด ผู้ที่ทำสัญญากับคอร์จะไม่ได้กลับไปอยู่บนสวรรค์อีกและจมลงสู่ความมืดจนกว่า จะได้รับการชำระล้าง
วาลส์
คอร์ที่ทำความฝันของมนุษย์ทั้งสามประการให้เป็นจริงจะเข้ายึดร่างกายและ วิญญาณเพื่อพัฒนาเป็นวาลส์และกลายเป็นรากฐานของการคืนชีพของเวอโลเรนผู้เป็น นาย การชำระวาลส์นั้นจำเป็นต้องมีความสามารถในระดับหนึ่งจึงจะสามารถทำได้
บากูลูส
อาวุธที่บิชอปใช้กำจัดคอร์ เพราะไซฟอนธรรมดาไม่สามารถกำจัดคอร์ได้ บากูลูสจะทำให้ไซฟอนโจมตีและกำจัดคอร์ได้ หรือถ้าเป็นไซฟอนสายรักษาจะสามารถกำจัดคอร์ที่สิงคนอยู่โดยไม่ทำอันตรายคน ที่ถูกสิงได้ แต่บากูลูสยังสามารถใช้ได้อีกแบบคือการควบคุมวาลส์โดยการอ่านเวทในไบเบิล ย้อนกลับ โดยการใช้ในลักษณะนี้จะต้องชดใช้ด้วยชีวิต
ก็อดเฮาส์
ก็อดเฮาส์คือตระกูล7ตระกูลที่มีหน้าที่เลือกจักรพรรดิและสันตะปาปา โดยก็อดเฮาส์นั้นเป็นลูกหลานของเซเว่นโกสต์ ทีทั้งหมด7แห่งใน7ทวีปโดย"นักเดินทางแห่งเซเล่"จะต้องมาขอ"ตั๋วผ่านต้องคำ สาป"เพื่อไปที่ดินแดนแห่งเซเล่โดยวิธีการได้ตั๋วผ่านต้องคำสาปคือการเปิด เผย"บาป"ของก็อดเฮาส์ที่อยู่เหนือการพิพากษาของจักรวรรดิและโบสถ์
เขตที่อยู่ ตระกูล เซเว่นโกสต์ที่ประจำ
เขตที่1 บาส์บูกร์ แอร์
เขตที่2 โอ๊ค เรลิกต์
เขตที่3 ยังไม่ทราบ ลันด์คาร์เต้/รันด์คัลท์
เขตที่4 คราท โพรเฟ่
เขตที่5 รักซ์ แฟร์ทราก
เขตที่6 เฮาเซ่น เฟสต์
เขตที่7 ยังไม่ทราบ เซเฮล


วันจันทร์ที่ 5 สิงหาคม พ.ศ. 2556

shana


เนื้อเรื่อง

ซาคาอิ ยูจิ นักเรียนมัธยมปลายผู้ซึ่งหวังว่าจะใช้ชีวิตอย่างสงบสุข ได้ทราบว่าแท้จริงแล้วตัวเขาเองนั้นได้ตายไปแล้ว ระหว่างทางกลับบ้านวันหนึ่ง เขาได้พบเหตุการณ์ประหลาด อยู่ๆ บรรยากาศรอบข้างก็หยุดลง และผู้คนที่อยู่รอบๆ ก็ตกอยู่ในเปลวเพลิงสีฟ้า ขณะที่ปิศาจที่รูปร่างคล้ายตุ๊กตาขนาดยักษ์ดูดเปลวเพลิงนั้นเข้าไปในปาก ขณะที่ปิศาจนั้นกำลังจะกินยูจิเข้าไป ก็ปรากฏหญิงสาวถือดาบในผ้าคลุมสีดำผู้ซึ่งมีผมและนัยน์ตาสีแดงราวกับเปลว เพลิงที่กำลังลุกโชนออกมาช่วยเขา หญิงสาวคนนั้นเรียกตัวเองว่า เฟลมเฮซ (Flame Haze) ผู้ซึ่งออกล่าเหล่าโทโมงาระ (ชื่อเต็มคือ กุเซะ โนะ โทโมงาระ ที่แปลว่า "ผู้อาศัยในโลกปิศาจ" ในภาษาไทย) สิ่งมีชีวิตจากต่างมิติ เมื่อยูจิสังเกตเห็นลูกไฟสีฟ้าภายในตัวเอง เฟลมเฮซนั้นจึงได้บอกเขาว่า ยูจิตัวจริงนั้นได้ตายไปแล้ว ขณะนี้เขาคือทอร์ช (Torch) เป็นสิ่งที่ใช้ทดแทนมนุษย์ที่ถูกลบไป ทอร์ชนั้นจะสวมในรูปของคนที่ถูกลบไป แต่พอเวลาผ่านไป พวกเขาจะหายไปจากความทรงจำของคนอื่นๆ เมื่อตระหนักถึงการตายของตนเองแล้ว ยูจิจึงได้เป็นเพื่อนกับหญิงสาวแปลกหน้าคนนั้นและได้ตั้งชื่อเธอว่า ชานะ ชานะคิดว่ายูจิคงจะสลายไปเช่นเดียวกับทอร์ชอื่นๆ แต่กลับพบว่ายูจินั้นไม่ใช่ทอร์ชธรรมดา แต่เป็นทอร์ชพิเศษที่เรียกกันว่ามิสเทส (Mistes) เขามี สมบัติแห่งพิภพแดง (โฮกุ) อยู่ภายในตัว และเป็นสมบัติแห่งพิภพแดง ที่มีพลังและมีค่ามาก ดังนั้นชานะจึงคอยคุ้มครองยูจิจากพวกโทโมงาระ ซึงจะใช้สมบัติแห่งพิภพแดง (โฮกุ) เพื่อทำลายสมดุลแห่งโลก ยูจิจึงตัดสินใจที่จะฝึกฝนตนเองกับชานะเพื่อช่วยเหลือเธอต่อสู้
การต่อสู้ของชานะนั้นเป็นหนึ่งในการต่อสู้อันยาวนานระหว่างเหล่าเฟลมเฮ ซและโทโมงาระ พวกโทโมงาระนั้นเป็นสิ่งมีชีวิตที่อยู่อีกมิติหนึ่งและคอยดูดพลังชีวิต ซึ่งเป็นพลังงานที่สร้างชีวิตต่างๆ ในโลก จากสิ่งมีชีวิต และใช้พลังนั้นตามความทะเยอทะยานของตนเอง ส่วนเฟลมเฮซนั้นเป็นเหล่าศัตรูของพวกโทโมงาระ ซึ่งจะคอยรักษาสมดุลของทั้งสองโลก ดังนั้นพวกเฟลมเฮซจึงสร้างทอร์ชขึ้นมาแทนที่คนที่ตายไปเพื่อเยียวยาความเสีย หายจากการกระทำของพวกโทโมงาระ

ตัวละครหลัก

ซาคาอิ ยูจิ
(ญี่ปุ่น: 坂井悠二 Sakai Yūji ?) (มิสเทส)
พากย์เสียงโดย ซาโตชิ ฮิโนะ
ตัวละครหลักของเรื่อง เขาเป็นนักเรียนมัธยมปลายธรรมดาๆ แต่เหตุการณ์กลับไม่เป็นเช่นนั้น เมื่อเขาพบว่าตัวเขานั้นได้ตายไปแล้ว และเหลือเวลาอีกไม่มากก่อนจะสลายไป แต่ทว่าเขาเป็นมิสเทส ซึ่งไม่เหมือนทอร์ชทั่วๆ ไป เพราะมิสเทส คือ ทอร์ชที่บรรจุ "สมบัติ" ของพิภพแดงเอาไว้ ซึ่งสมบัติของเขานั้นเรียกกันว่า "เด็กหลงยามเที่ยงคืน" (เรย์จิ ไมโกะ) ด้วยเด็กหลงยามเที่ยงคืนนั้นทำให้ยูจิสามารถมีชีวิตเหมือนกับมนุษย์ทั่วไป ได้ตราบที่เขายังมีพลังชีวิตเหลืออยู่ แต่เพราะคุณสมบัติพิเศษของมัน ทำให้เมื่อถึงยามเที่ยงคืนในแต่ละวัน พลังชีวิตของยูจิจะถูกฟื้นพลังขึ้นมาใหม่เหมือนไม่เคยเสียพลังไป ยูจิจึงพยายามที่จะฝึกฝนการใช้พลังที่อยู่ภายในตัวเขา เพื่อช่วยเหลือชานะในการต่อสู้ด้วย ยูจิเป็นคนประเภทที่คิดถึงผู้อื่นก่อนคิดถึงตนเอง ด้วยเหตุนี้ทำให้ชานะรำคาญในตัวยูจิเป็นอย่างมาก แต่ในทางกลับกันก็ยิ่งทำให้ชานะสนใจยูจิมากขึ้นเช่นกัน
ชานะ
(ญี่ปุ่น: シャナ Shana ?) / มือสังหารเกศาเพลิงเนตรอัคคี (ญี่ปุ่น: 炎髪灼眼の討ち手 "Enpatsu Shakugan no Uchite" ?) (เฟลมเฮซ)
พากย์เสียงโดย ริเอะ คุงิมิยะ
เป็นนางเอกของเรื่องและเป็นเฟลมเฮซของอลาสทอร์ ซึ่งเริ่มแรกเธอมุ่งมั่นต่อหน้าที่ของเธอที่เป็นเฟลมเฮซ ไม่มีแม้กระทั่งชื่อ และเห็นยูจิเป็นแค่ทอร์ช เป็นสิ่งของอย่างนึ่ง สนใจในตัวยูจิเนื่องจากยูจิเป็นมิสเทส แต่ต่อมาเธอรู้จักยูจิมากขึ้น และคิดกับยูจิเป็นมนุษย์มากขึ้น และในที่สุดเธอก็หลงรักยูจิ เดิมชานะนั้นไม่มีชื่อ โดยจะเรียกกันจากฉายาของเธอคือ "มือสังหารเกศาเพลิงเนตรอัคคี" ต่อมายูจิจึงตั้งชื่อเธอเป็น ชานะ จากดาบของเธอ นิเอโทโนะ โนะ ชานะ
อลาสทอร์
(ญี่ปุ่น: アラストール Arasutōru ?) / เพลิงกัลป์ถล่มฟ้าทลายปฐพี (ญี่ปุ่น: 天壌の劫火 "Tenjō no Gōka" ?) (ราชาแห่งพิภพแดง)
พากย์เสียงโดย มาซาชิ เอบาระ
เขาเป็นราชาแห่งพิภพแดงที่ทำพันธสัญญากับชานะ ซึ่งอยู่ในรูปเปลวเพลิงที่บรรจุอยู่ในภาชนะศักดิ์สิทธิ์รูปร่างคล้ายล็อก เก็ตห้อยคอขนาดใหญ่ "โคคิวทอส" ซึ่งชานะมักจะห้อยคอติดตัวอยู่เสมอ ชื่อของเขานั้นมาจากชื่อปิศาจในตำนาน Alastor
อลาสเตอร์นั้นว่ากันว่าเป็นราชาแห่งพิภพแดงที่แข็งแกร่งที่สุด หรืออาจเทียบได้กับเทพของอีกโลกหนึ่งเลยก็ว่าได้ ถึงแม้จะเป็นเช่นนั้นเขาก็พยายามขัดขวางพวกโทโมงาระที่จะดูดพลังชีวิต และพิเศษกว่าระดับราชาตัวอื่นที่จะต้องแสดงพลังผ่านเฟลมเฮซ เขาสามารถใช้ความสามารถที่เรียกว่า เทนปะ โจไซ ซึ่งจะอัญเชิญร่างที่แท้จริงของเขามาสู่โลกเพื่อดูดกลืนเหล่าโทโมงาระที่ อยู่รอบๆ เขาได้ ซึ่งวิชานีถือเป็นท่าไม้ตายสุดท้ายของ เอ็นปัทซึ ชากุกัน เพราะว่าเหล่าเฟลมเฮซที่ใช้วิชานี้ก่อนหน้าชานะนั้น ไม่เคยมีผู้ใดรอดชีวิต
มาเจอรี่ ดอว์
(ญี่ปุ่น: マージョリー・ドー Mājorī Dō ?) / ผู้ร่ายโคลงกำสรวล (ญี่ปุ่น: 弔詞の詠み手 "Chōshi no Yomite" ?) (เฟลมเฮซ)
พากย์เสียงโดย ฮิโตมิ นาบาทาเมะ
เฟลมเฮซ หุ่นดีรูปร่างสุงเพรียวผมสีบลอนด์ ผู้ซึ่งทำพันธสัญญากับมาโคเชียส ซึ่งอยู่ในรูปหนังสือ วิชาของเธอนั้นคือการแปลงร่างเป็นหมาป่าขนาดใหญ่ เธอร่ายเวทย์โดยการใช้ โทซัทสึ โนะ โซเคียวชิ ซึ่งแปลว่า ลำนำแห่งการสังหาร เธอเป็นคนชอบดื่มเหล้า ซาโต้และทานากะนั้นคอยติดตามเธอเพราะว่าเธอได้ช่วยชีวิตพวกเขาไว้ เหตุผลที่เธอเป็นเฟลมเฮซเนื่องจากต้องการแก้แค้นโทโมงาระที่มีเปลวเพลิงสี เงิน (ซึ่งมีความเกี่ยวข้องกับยูจิ)
มัลโคเชียส
(ญี่ปุ่น: マルコシアス Marukoshiasu ?) / เขี้ยวเล็บแห่งการทำลายล้าง (ญี่ปุ่น: 蹂躙の爪牙 "Jūrin no Sōga" ?) (ราชาแห่งพิภพแดง)
พากย์เสียงโดย มิตสึโอะ อิวาตะ
ราชาแห่งพิภพแดงที่ทำสัญญากับมาเจอรี่ โด ซึ่งพูดผ่านภาชนะศักดิ์สิทธิ์ กรีมอร์ ซึ่งอยู่ในรูปหนังสือ ชื่อของเขานั้นมาจากชื่อปิศาจ พูดจาโผงผาง คอยแหย่มาเจอรี่อยู่เสมอ แล้วก็จะถูกมาเจอรี่เหยียบเป็นประจำ แต่ก็เอาใจใส่เธอเสมอ อย่างสหายร่วมรบ
โยชิดะ คาซึมิ
(ญี่ปุ่น: 吉田一美 Yoshida Kazumi ?)
พากย์เสียงโดย อายาโกะ คาวาสุมิ
เพื่อนร่วมชั้นของยูจิ แอบชอบยูจิอยู่ แต่เป็นคนขี้อายจึงไม่กล้าไปบอกยูจิตรงๆ แต่ภายหลังได้รวบรวมความกล้าบอกความรู้สึกของเธอแก่ยูจิ และให้ยูจิเป็นคนตัดสินใจระหว่างเธอและชานะ

อภิธานศัพท์

พลังชีวิต
(ญี่ปุ่น: 存在の力 Sonzai no Chikara ?)
พลังที่จำเป็นต่อการคงอยู่ของสิ่งมีชีวิตทุกๆสิ่ง หากพลังชีวิตหมดไปจะทำให้สูญสิ้นตัวตน คือไม่มีใครรู้ถึงการคงอยู่ของสิ่งมีชีวิตนั้นอีก
ทอร์ช
(ญี่ปุ่น: トーチ Tōchi ?)
โดยศัพท์แปลว่าคบเพลิง แต่ในที่นี้ทอร์ชคือสิ่งที่แทนที่คนที่ตายไปแล้วให้ยังคงดำเนินกิจวัตรประจำ วันของคนๆ นั้นต่อไป จนกว่าดวงไฟจะดับลง หลังจากนั้นทุกคนก็ไม่รู้ถึงการคงอยู่ของคนๆนั้นอีกเลย
มิสเทส
(ญี่ปุ่น: ミステス Misutesu ?)
ทอร์ชชนิดพิเศษที่เก็บโฮวกุ "สมบัติแห่งพิภพแดง" ไว้ เมื่อทอร์ชนั้นดับสูญสมบัติลับภายในจะถูกสุ่มย้ายไปยังทอร์ชดวงอื่น มีชื่อเรียกอีกชื่อว่า "หีบสมบัติเร่ร่อน"
เฟลมเฮซ
(ญี่ปุ่น: フレイムヘイズ Fureimuheizu ?)
ผู้ทำสัญญากับราชาแห่งพิภพแดง ส่วนใหญ่ทำสัญญาเพื่อแก้แค้นโทโมงาระที่ช่วงชิงสิ่งสำคัญไป
โทโมงาระแห่งพิภพแดง / โทโมงาระ
(ญี่ปุ่น: 紅世の徒 Guze no Tomogara ?)
ชาวต่างโลก มีโทโมงาระบางตนช่วงชิงพลังชีวิตของมนุษย์เพื่อก่อให้เกิดปรากฏการณ์ที่ไม่ควรเกิดขึ้น
ราชาแห่งพิภพแดง / ราชา
(ญี่ปุ่น: 紅世の王 Guze no Ō ?)
โทโมงาระแห่งพิภพแดงที่เก่งมากๆ มีราชาแห่งพิภพแดงบางตนทำสัญญากับมนุษย์เพื่อไล่ล่าโทโมงาระที่กลืนกินพลัง ชีวิตมากเกินไป คนที่ทำสัญญากับราชาเพื่อไล่ล่าโทโมงาระถูกเรียกว่า เฟลมเฮซ
รินเนะ
(ญี่ปุ่น: 燐子 Rinne ?)
รินเนะถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นข้ารับใช้ให้กับพวกโทโมงาระ โดยต้องการพลังชีวิตจากเจ้านายของตนเพื่อให้ตนเองให้คงอยู่ต่อไป
เวทนิรมิต
(ญี่ปุ่น: 自在法 Jizaihō ?)
ปรากฏการณ์ที่ไม่ควรเกิดขึ้นบนโลกนี้ ใช้พลังชีวิตเป็นพลังงานในการร่าย เช่น เขตแดน เป็นต้น
สมบัติแห่งพิภพแดง
(ญี่ปุ่น: 宝具 Hōgu ?)
สมบัติลับที่แฝงพลังไว้มากมายหลายแบบ เช่น เด็กหลงยามเที่ยงคืน,แท่นผลึก,โอแกล เป็นต้น
เขตแดน
(ญี่ปุ่น: 封絶 Fūzetsu ?)
เวทนิรมิตชนิดหนึ่ง มีลักษณะเป็นเขตปิดตายคล้ายโดมสีแดง ตามหลักการแล้วมีแต่เฟลมเฮซกับโทโมงาระที่เคลี่อนไหวในเขตแดนได้(ฟูเซสซึ)
แท่นผลึก
(ญี่ปุ่น: 玻璃壇 Haridan ?)
สมบัติลับชนิดหนึ่ง มีลักษณะเป็นแบบจำลองเมืองมิซากิขนาดย่อ เมื่อเดินกลไกสามารกเลือกให้แสดงเฉพาะทอร์ชได้ด้วย
เอาท์ลอว์
(ญี่ปุ่น: 外界宿(アウトロー) Autorō ?)
หน่วยงานแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างมนุษย์กับเฟลมเฮซ